FMCP Students!

FMCP Students!
No one is too old to learn English!

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

ข้อกังวล 3 ข้อของผู้ปกครองที่มีลูกเรียนหลักสูตร EP

ข้อกังวลของผู้ปกครองที่มีลูกเรียนหลักสูตร EP


f-grade 

โอเค...ลูกเข้า EP ได้แล้ว...จบสิ้นซักที..

จบจริงมั้ยเอ่ย....

เด็ก ของเรากำลังเรียนหลักสูตรใหม่ เป็นอีกภาษานึง นั่นคือภาษาอังกฤษ  ลองคิดดูว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ สำหรับนักเรียนเอง และจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ สำหรับผู้ปกครองอีกด้วย นี่คือข้อกังวลหลักๆ 3 อย่างของผู้ปกครองที่มีลูกเรียนในหลักสูตร EP
  1. ลูกเราจะเรียนได้มั้ย-  ถ้าเด็กยังไม่มีพื้นฐานใดๆ ในการเรียนเป็นภาษาอังกฤษเลย-- อาจจะยากพอสมควร  แต่ไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถจ้ะ  เด็กจะต้องตั้งใจฝึกเรื่องคำศัพท์เป็นพิเศษ เพราะเรื่องๆ เดิม เรียนเป็นภาษาไทยอีกอย่าง  ภาษาอังกฤษอีกอย่าง ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเดียวกัน
  2. ลูกจะพูดกับครูต่างชาติได้มั้ย  ถ้ายังไม่เคยเรียนสนทนาภาษาอังกฤษก็อาจจะยากหน่อย ผู้ปกครองควรเตรียมความพร้อมโดยแนะนำให้ลูกเรียนสนทนาภาษาอังกฤษข้างนอกโรงเรียน
แต่...นั่น คือสาเหตุที่ให้ลูกเรียนหลักสูตรนี้ ไม่ใช่หรือ...จะได้ให้ลูกพูดภาษาอังกฤษเก่งๆ...แล้วทำไมต้องเรียนการพูดข้าง นอกโรงเรียนอีก
ความจริงคือ...ใน ห้องๆ นึง เด็กที่พูดภาษาอังกฤษเก่งนั่นมีไม่กี่คน  เด็กกลุ่มนี้จะเป็นคนถาม หรือคนที่สื่อสารกับครูต่างชาติ  ส่วนนักเรียนคนอื่นก็จะถามเพื่อนคนนั้น ต่อๆ กัน  อีกอย่าง...จำนวนครั้งในการสื่อสารตัวต่อตัวกับลูกของผู้ปกครองและครูต่าง ชาติตลอดการเรียนนั้น..ไม่เพียงพอที่จะทำให้นักเรียนคนไหนพูดภาษาอังกฤษเก่ง ได้...ในเมื่อเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน  ผู้ปกครองควรสร้างโอกาส  หาที่เรียนสนทนาภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะให้ลูกๆ ฝึกการฟังและการพูดมากขึ้น 

3. เราจะสอนการบ้านลูกได้มั้ย...    ถึงผู้ปกครองมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาบ้าง แต่การสอนการบ้านลูกที่เรียนเลข และวิทย์เป็นภาษาอังกฤษนั้น..ไม่ใช่หมูๆเลยนะ  จากการเรียนหลักสูตร EP จริงๆ ถ้าไม่รู้เรื่อง ก็ได้แต่รู้ลอก แล้วเด็กของผู้ปกครองจะไม่ได้ผลของการเรียนหลักสูตร EP อย่างแท้จริง

โอเค...แล้วผู้ปกครองจะหาที่เรียนที่ไหน....

สถานที่ๆเรียนพิเศษของหลักสูตรนี้มีอยู่น้อยมาก  ทั้งๆ ที่เป็นหลักสูตรที่มีจำนวนนักเรียนสมัครเข้าเรียนเป็นทวีคูณในทุกๆปี สาเหตุ เป็นเพราะติวเตอร์ที่จะสอนได้ต้องเก่งทั้งสองวิชา  ภาษาอังกฤษ และเลข หรือ ภาษาอังกฤษ และวิทย์  ติวเตอร์ต้องสามารถเอาทั้งสองวิชามาสอนเป็นวิชาเดียวกัน

ถ้าผู้ปกครองอาศัยอยู่ที่กทม  ผู้ปกครองน่าจะมีโอกาสที่จะหาติวเตอร์พิเศษนี้ง่ายกว่าต่างจังหวัดทั่วไป

แต่ถ้าผู้ปกครองอาศัยอยู่ที่ชลบุรี   พี่เมทาง FMCP English เปิดสอนทั้งสามวิชา เลข-วิทย-อังกฤษ ในหลักสูตร EP ชลกันยานุกูล (ชลหญิง) ชลราษำรอำรุง (ชลชาย) อนุบาลชลบุรี และโรงเรียนอื่นๆ ในเขตอำเภอเมือง คลิกดูที่นี่เพื่อรายละเอียด  หรือโทรปรึกษาครูเมโดยตรงที่ 082-471-0226

ส่วนของวิชาภาษาอังกฤษ..พี่เมติวการสนทนาภาษาอังกฤษอีกด้วย

FMCP English เปิดรับสมัครนักเรียน EP เข้าคอร์สเปิดเทอมพฤษภาแล้วจ้า

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

เรียนภาษา ตัวต่อตัว สำหรับผู้ใหญ่ ดีอย่างไร



การเรียนตัวต่อตัว หรือ Private Lesson คือการเรียนคนเดียว โดยมีครูสอนเพียงคนเดียว

 

ช่างเป็นวิธีที่น่ากลัว และน่าเบื่อ--แต่รู้มั้ย     นั่นคือวิธีที่ได้ผลเร็วที่สุดและดีที่สุด

ครูสามารถเจาะในส่วนที่เราต้องปรับปรุง รวมทั้งติวในวิธีที่ทำให้เราเข้าใจบทเรียนได้มากที่สุด 

ลองคิดดูนะ

ทำไมที่ฟิตเนส หรือสถานที่ออกกำลังการถึงมี Personal Trainer หรือครูฝึก ตัวต่อตัว 
เหตุเพราะร่างการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน รวมทั้งเป้าหมายในการออกกำลังกายก็ไม่เหมือนกัน  บางคนอยากผอม  บางคนอยากเพิ่มน้ำหนัก  บางคนอยากดูแลสุขภาพ  บางคนเข่าอ่อนแอ  บางคนยืดหยุ่นดี ....
สมองเราก็เช่นกัน

การเลี้ยงดู ประสบการณ์เรียน และความสามารถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะอย่างนี้ในแต่ละกรณี ควรได้รับการสอนในแบบที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล การเรียนในกลุ่มใหญ่จึงไม่สามารถตอบโจทย์ให้หลายๆคน เพราะไม่ได้รับการสอนในส่วนที่เราต้องการ โดยเฉพาะคลาสสนทนาภาษาอังกฤษ  ถ้าเราไม่กล้า..เราก็แทบไม่ค้องพูดเลยในกลุ่มใหญ่  แต่ถ้าเราอยู่ในกลุ่มเล็ก ยังไงๆ เราก็ต้องฝึกพูด  ยิ่งฝึกพูดบ่อย..ก็ยิ่งเก่ง

ในวัยที่เราทำงาน..เรารู้แล้วว่า ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษนี้สำคัญแค่ไหน เราจึงควรเก็บเงินเดือนส่วนนึงเพื่อนำไปให้พัฒนาความรู้ของตัวเองเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

เรียนตัวต่อตัวนั้นมีค่า เรียนสูง  แต่ลองคิดกลับอีกแง่นึง  นี่คือการลงทุน  เราลงทุนเท่าไร ผลจะกลับมาเท่านั้น  อยากเสียน้อย ก็ได้ผลน้อย  แต่ถ้าเสียมากหน่อย โอกาสนี้อาจจะทำให้เราได้รับงานใหม่ หรือปลุกความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในอีกระยะยาว... แบบไหนจะคุ้มกว่ากัน

ที่ FMCP English ชลบุรี พี่เมจัดหลักสูตรที่เรียกว่า BABY STEPS คล้ายๆกับการฝึกเด็กเล็กให้เริ่มเดินด้วยตัวเอง คือ พี่เมจะช่วยในการสนทนาภาษาอังกฤษเบื้องต้น  ค่อยๆ พาเดิน (ช่วยแต่งประโยคสนทนา)  แล้วสุดท้ายก็จะปล่อยให้เดินเอง (เรียนตัวต่อตัวกับครูเจ้าของภาษา)

ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ตามสปีดของเรา  แล้วความมั่นใจ ของเราจะสูงขึ้นโดยไร้ขอบเขตชัวร์

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด คอร์สภาษาสำหรับผู้ใหญ่

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

ผลเสียของการหยุดอ่านหนังสือ...

i_love_reading_postcards-r97d66e6e6f634b08936367575b736ba6_vgbaq_8byvr_512

ตอนเรียน..เรา ก็อ่านหนังสือเรียน... พี่เมเข้าใจว่า มันน่าเบื่อมาก เพราะเราต้องอ่านในสิ่งที่เราไม่มีความสนใจในสิ่งนั้น  แต่เราต้องใช้สอบ เพราะฉะนั้น...ถ้าไม่อ่าน-ก็สอบตก
พอมีเวลาว่าง..บางคนก็เอาเวลาไปอ่านนิยาย เพื่อเบาสมอง
พอเราเรียนจบ..เจอหนังสือก็ไม่อยากแตะแล้ว...คิดแต่ว่าเราอ่านหนังสือมาตลอดสิบกว่าปี.. เราจะอ่านอีกทำไม
เมื่อใดที่เราหยุดอ่านหนังสือเมื่อนั้นความรู้เราจะอยู่กับที่--ดีไม่ดีจะหดน้อยลง
พี่ เมไม่ได้กล่าวถึงหนังสือเรียนนะ...พี่เมพูดถึงหนังสือจำพวก self-help ที่มุ่งในการพัฒนาความคิดตัวเอง และการทำตัวของตัวเองเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม  ถ้าใครอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มความรู้ในงานของตัวเองอีกด้วย...คนนั้นจะไปไกล กว่าใคร

ดูตัวอย่างจากคนที่ประสบความสำเร็จรอบตัว...แต่ละคนมีนิสัยรักการอ่านทั้งสิ้น

อย่า เอาเวลาไปอ่านหนังสือนิยายเลย... ในความคิดเห็นของพี่เม  การอ่านนิยายก็เหมือนดูละคร  สร้างความเพ้อฝัน  พอเราอ่าน/ดู เรื่องนั้นจบ  เคยคิดมั้ยว่าเราได้อะไรดีๆ จากมันบ้าง  เราสามารถเป็นคนดีขึ้นมามั้ยหลังจากเราอ่านนิยายนั้นจบ  เวลาที่เสียไป..เราน่าจะเอาเวลานั้นไปทำอะไรเพื่อตัวเราเองได้บ้าง...

ความฉลาดของคน...วัดกันด้วยจำนวนหนังสือคุณภาพดีๆ ที่อ่าน

ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไร ทุกๆคนยังกำลังโตทางด้านความคิด  มีตั้งหลายพันเรื่องที่เราไม่มีความรู้
ยิ่งอ่านยิ่งรู้  ยิ่งรู้ยิ่งก้าวหน้า
มาเริ่มอ่านหนังสือกันเถอะ..

เรียนภาษาอังกฤษกับพี่เมที่ FMCP English ชลบุรี

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556

British Slang vs. American Slang

การใช้ภาษาอังกฤษของเรานะ....สไตล์ไหน.. อเมริกันหรืออังกฤษ

โดย ปกติแล้ว...ทั้งสองภาษานี้ก็มีลักษณะการพูดและการเขียนคล้ายกัน--สำเนียงการ พูดอาจจะต่างกันหน่อย  แต่ที่ต่างกันเยอะที่สุดคือการใช้ Slang และการใช้ Idioms ที่พวกเนทีฟจะใช้กัน  นี่คือการเปรียบเทียบบางตัวระหว่างอังกฤษกับอเมริกัน ให้น้องๆ ลองทำความเข้าใจดู...

หลักการเปรียบเทียบสแลง USA vs. Britain (ตอนที่ 1)

British English

American English Slang 

ความหมาย

Tire is puncturedHave a flat tireอเมริกาจะไม่ใช้ว่ายางเป็นรู แต่จะบอกว่ายางแบน--จบ
Stand in QueueStand in a lineคิว เป็นคำจากประเทศอังกฤษแปลว่า แถว  ส่วนอเมริกันจะใช้ line แทน
Go to Petrol BunkGo to Gas Stationที่เมืองไทย เรามีทั้งแก๊ซกับน้ำมัน ที่อเมริกา ไม่ว่าจะเป็นแก็ซหรือน้ำมัน เขาก็เรียกว่าแก็ซ
Put a full stop at end of sentence.Put a period at end of sentence.จุดจบประโยค อเมริกันจะเรียกว่าเป็น period
I want to post this letterI want to mail this letterอเมริกันจะเรียกที่ทำการไปษณีย์ว่า post office แต่จะไม่เอา post ทาเป็นตัวกริยาที่แปลว่า ส่ง เขามักจะใช้ mail
I passed out in 2000 from Delhi UniversityI graduated in 2000 from Delhi UniverityPass out ที่อเมริกาแปลว่า สลบ ถ้ามาใช่ในประโยคนี้คนอเมริกาจะคิดว่าเธอสลบที่มหาลัย จบการศึกษา ใช้ graduated
We are used to saying  “hash” for symbol #In US, “#” means a pound symbol เรียกคนละอย่างกันเลย

รับสอนพิเศษ EP ชลบุรี

พี่เมเคยเป็นครูสอนในหลักสูตร EP จึงรู้ว่าปัญหาของการเรียน EP ของนักเรียนคืออะไร
confused
หนังสือเลขไทยเรียกอย่างนึง...หนังสือเลขอังกฤษเรียกอีกอย่าง...วิทย์ก็เหมือนกัน
แถมยังสอนเป็นภาษาอังกฤษอีก...

การเรียนแบบนี้ยังยากสำหรับผู้ใหญ่เลย...แต่นี่แค่เด็กนักเรียน อายุ 12-18 ปี

การ เรียนหลักสูตร EP กำลังเป็นที่ต้องการของทุกคน เพราะอาเซี่ยนจะมาอีกปีกว่า  การตื่นตัวเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษนับวันจะยิ่งมากขึ้น  แต่ถ้าเด็กเราไม่มีพื้นฐาน...การเรียนแบบนี้จะยากมาก

พี่เมจึงจัดคอร์ สสอนพิเศษหลักสูตร EP ของม.1-4 เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาของวิชาเลข และวิทย์ในระหว่างเทอม เพื่อเตรียมตัวสอบ เวลาเรียนในห้องจะได้เข้าใจจริงๆ
คอร์สเปิดรับสมัครรับนักเรียนแล้ว  คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด

ฝึกเรียนภาษาอังกฤษจากข้อคิดเตือนใจ

คำศัพท์
plan:  วางแผน
breath: หายใจ
trust: เชื่อ
let go: ปล่อยวาง
what happens: เกิดอะไรขึ้น

บาง คน อย่างเช่น ครูเม ชอบวางแผนนั่น โน่น นี่ ว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต้องใช้แผน A ถ้าเป็นอย่างนี้ ต้องเป็นแผน B  จบบางครั้งก็ลืมไปว่าชีวิตของเราเองยังกำหนดไม่ได้อะไร นับประสาอะไรจึงจะมากำหนดสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ข้อคิดเตือนใจนี้ แปลว่า...
เธอไม่จำเป็นต้องวางแผนทุกอย่าง บางครั้งก็เธอควรหยุด...หายใจลึกๆ  มีความเชื่อมั่น ปล่อยวาง แล้วดูซิ...ว่าจะเกิดอะไรขึ้น....

ท้าย ที่สุด...ทุกอย่างก็จะลงตัวเอง  ถ้ามันไม่ลงตัวอย่างที่คิดไว้..มันจะเป็นการลงตัวในแบบที่ดีที่สุดสำหรับ เรา  เราอาจจะไม่เข้าใจมันตอนนี้..แต่ต่อไปเราจะเข้าใจมันเอง...

พร้อมที่จะปรับปรุงภาษาอังกฤษ  คลิกที่นี่


วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ...เล่มไหนดี

มีหนังสือภาษาอังกฤษตั้งหลายเล่ม...

เดินไปอ่านเล่มหนาๆดีมั้ย  จะได้ดูไฮโซ


โห....น้องเอ๊ย....ไฮโซแล้วรู้เรื่องมั้ยเนี่ย...

 เรามาต่อจากบลอกที่แล้วที่พี่เมแนะนำให้เริ่มการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเพื่อปรับปรุงภาษาแบบสมบูรณ์แบบกัน...

ปัญหาแรก...ซื้อหนังสือที่ไหน...

ที่ไหนก็ได้คะ  ที่ขายหนังสือ----อ้าว... ม่ายช้าย   คือร้านหนังสืออะไรก็ได้ที่ขายหนังสือสไตล์เราคะ  พี่เมแนะนำร้านหนังสือ SE-ED ส่วนใครที่มีบุญวาสนาดี อาศัยอยู่ที่กรุงเทพ ก็จะ มีให้เลือกเยอะหน่อย

เลือกเล่มไหนดี....

พี่เมแนะนำให้เดินตรงไปที่มุมหนังสือภาษาอังกฤษ สำหรับเด็กๆ ก่อนเลย  ไม่ต้องอายใคร  เพราะด้านได้อายอดนะจ๊ะ  สาเหตุที่ให้ไปมุมนั้นก็เพราะว่าเราต้องหาหนังสือในระดับสบายๆของเราก่อน  แต่ละคนมีระดับสบายๆ ไม่เหมือนกัน  พี่เมจึงไม่อยากแนะนำหนังสือเล่มใดเป็นพิเศษ  เจอเล่มนึงให้เปิดอ่านน่าแรก ถ้าเราเจอคำศัพท์ที่ไม่รู้มากกว่า สองคำในหนึ่งบรรทัด ก็จงวางเล่มนั้นเสียแล้วไปหาหนังสือที่ชั้นระดับความยากต่ำกว่านั้น  

เอ...แล้วทำไมไม่เลือกเล่มที่มีคำศัพท์ยากๆเยอะๆละคะ....(ใครถามเนี่ย)

ก็เพราะว่า ตอนแรกที่เราซื้อมันเราจะภูมิใจ (เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน) แต่พอเปิดหน้าแรก...เราก็หลับ..หน้าที่สองนี่ไม่ต้องพูดถึง..เพราะน้องๆ คงจำไม่ได้แล้วว่าเก็บหนังสือไว้ในซอกไหนของห้อง

พี่เมเลยแนะนำให้ไปหาหนังสือที่ไม่ยากเกินความสามารถ เรื่องที่เราสนใจ พี่เมแนะนำขอเป็นเล่มบางๆก่อน  เพราะเราจะมีกำลังใจในการอ่านมันให้จบ  

เจอเล่มนั้นแล้วใช่มั้ย...  โอเคไปจ่ายตังค์  (ซื้อเล่มเดียวก่อน...อย่าซื้อหลายเล่ม..ไปทีละขั้นๆ)

ถึงแม้ว่าระดับเราอาจจะเบบี๋มาก ก็อย่าท้อ  เด็กฝรั้งอายุ ห้า ขวบ ยังเก่งภาษากว่าผู้ใหญ่ที่เป็นคนไทย ไม่ได้หมายความว่าเด็กเก่งกว่าผู้ใหญ่นะ  ก็มันเป็นภาษาแม่ของเด็กคนนั้นนะซิ  ดังนั้นเราเริ่มที่จะพัฒนาตัวเราเอง..ดีกว่าอายคนอื่นแล้วย่ำอยู่กับที่นะจ๊ะ

เอ้า...เสร็จแล้วมาสร้างนิสัยการอ่านกัน

หาเวลาชิวๆ ก่อนนอน, หลังตื่นนอน, อะไรก็ได้ซัก 10-15 นาที ให้เวลานั้นเป็นเวลาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษของเรา อ่านแค่สิบห้านาทีพอ  คำศัพท์ไหนไม่รู้ ให้เปิดดิกหา อ่านเสร็จแต่ละย่อหน้าให้ทำความเข้าใจกับเนื้อเรื่อง

ทำอย่างนี้ไปทุกวัน  ให้เวลาในการพัฒนานิสัยรักการอ่านหนังสือให้กับตัวเองเพียงวันละ 15 นาที

ทำได้มั้ย....พี่เมรู้ว่าทุกคนทำได้

พออ่านจบเล่ม...ให้อ่านอีกรอบ..ครั้งนี้เราจะอ่านเร็วขึ้น  พร้อมทั้งทวนศัพท์ไปด้วย

พอจบครั้งที่สอง....ไปเลี้ยงไอติมตัวเอง...เราพัฒนาตัวเองได้ระดับนึงแล้ว

กินไอติมเสร็จไปหาหนังสือเล่มใหม่ที่ยากกว่าเล่มเก่านิดเดียว....ย้ำ...นิดเดียว...

อย่าประมาทเป็นขาโจ๋  ไปขว้าหนังสือยากๆมา  อย่าลืมว่านิสัยคนใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนเพื่อที่จะให้เป็นนิสัยติดตัว...  ถ้าเรายังไม่ถึงขั้นนั้น..ตั้งใจปลูกนิสัยเราก่อนเถอะ

เล่มที่สอง...ใช้เวลา 20 นาทีต่อวัน

ทำไปเรื่อยๆ นอกเหนือจากเก่งภาษาอังกฤษแล้ว  เราจะมีความรู้ลึกซึ้งมาก....

พี่เมรับประกัน

เรียนภาษาอังกฤษกับพี่เมที่ FMCP English 
สาขาชลบุรี  โทร.082-471-0226


เคล็ด(ไม่ลับ) ในการเก่งภาษาอังกฤษ

การเก่งภาษาอังกฤษทำไม...มันย๊ากยากจัง

 

ไม่ยากหรอก...อังกฤษอะ.. แต่ที่การเรียนภาษาในสไตล์โรงเรียนมันค่อนข้างล้าหลังไปนิดนึง

ล้าหลังยังไงใช่มั้ย....

ท่องแกรมม่า....ท่องศัพท์....ท่องบทสนทนาภาษาอังกฤษ

เรียนอย่างนี้มาสิบกว่าปี....ไม่เห็นมีใครที่ใช้ภาษาอังกฤษได้เก่งจริงๆซักคน

เรียนเสร็จแล้วก็ลืม.....ทั้งๆที่แกรม่าเรียนซ้ำกันไปซ้ำกันมาทุกปีเลยอะนะ

ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็เพราะเราเรียนอย่างเดียว  ไม่เคยเอามาใช้เลย  หมายความว่าเราแยกภาษาอังกฤษมาเป็นส่วนๆ แกรมม่าเอย  คำศัพท์เอย  แต่ไม่เคยเอามารวมกัน  จะเอามารวมกันก็มีบ้างแต่ตอนสอบ...

เคยถามนักเรียนบ่อยๆว่าข้อสอบภาษาอังกฤษส่วนไหนยากที่สุด...คำตอบคือบทความ  

บทความมันยากเพราะคำศัพท์ และอีกทั้งเราไม่ได้อ่านภาษาอังกฤษบ่อย
พอเจอบทความยาวหน่อยก็ท้อแล้ว......

พี่เมว่าเราถึงเวลาที่จะเปลี่ยนรูปแบบการเรียนภาษาอังกฤษได้แล้ว...

อยากเก่งภาษาแบบเนทีฟ...ก็ต้องเรียนแบบเนทีฟ

ฝรั่งเรียนพูดก่อน  แล้วเรียนอ่าน  พออ่านก็เจอคำศัพท์  ส่วนแกรมม่า...บอกตามตรง  พี่เมไม่เคยเรียนแกรมม่าซักตัวที่อเมริกา  เพราะอะไรรู้มั้ย  ฝรั่งเค้ารู้อะไรใช้ตอนไหนจากการพูดและการอ่าน  ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ชื่อของเทนส์  แต่ก็สามารถพูดและเขียนได้ถูกต้องได้

พี่เมเห็นการเรียนคำศัพท์ของน้องๆ ก็สลดใจ  มันทำให้อังกฤษดูน่าเบื๊อน่าเบื่อ...

พี่เมเลยอยากให้น้องๆ เรียนแบบใหม่ๆ กัน  มาฝึกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้เป็นนิสัย

เห็นอ่านนิยายกันเป็นเล่มๆ ลองมาอ่านเรื่องสั้นภาษาอังกฤษนิดนึง คงไม่ถึงกับชักหงิกๆหนอก  เชื่อเถอะ

คอร์สVOCAB ของพี่เมจะเป็น 2 in 1 นั่นคือ ฝึกการอ่านจับใจความ พร้อมคำศัพท์   อ่านเรื่องสนุกๆ เพลินๆ และทำให้ติดนิสัยการอ่านไปเลย (ผู้ใหญ่วัยทำงานก็ฝึกการอ่านได้จ้า)

เริ่มสนใจละซิ   

โทรสอบถามเวลาเรียนได้ที่ 082-471-0226
คอร์สเปิดเทอม 1/2557 ได้เปิดรับสมัครแล้วจ้า


วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

ทดลองเรียนสนทนาภาษาอังกฤษกับพี่เม FMCP English


โปรโมชั่นสุด SUPER HOT--รับเมษายน






นักเรียนต้องโทรจองที่นั่งนะคะ  จำนวนจำกัด ไม่รับนักเรียนที่ไม่ได้คอนเฟริมไว้ก่อนนะคะ  เวลาและวันเรียนของแต่ละอาทิตย์จะไม่เหมือนกัน  กรุณาโทรถามรายละเอียดก่อนเข้าเรียนคะ  นักเรียนใหม่สามารถเข้าร่วมได้แค่ 1 ครั้ง 

ใครไม่เคยเรียนสนทนาภาษาอังกฤษ...แล้วชักสงสัย...มาลองเรียนเลยจ้า  แล้วจะรู้ว่าการเรียนสนทนานี้ไม่ยากและสนุกกว่าที่คิด!